โป๊กเกอร์ (Poker) เป็นเกมไพ่ที่มีผู้เล่นนิยมเล่นมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก อันเนื่องมาจากความไม่ซับซ้อน ความสนุก ประกอบกับการที่ต้องใช้ความคิดในการการตัดสินใจ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพนักเล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพขึ้นในหลายประเทศในโซนยุโรป และอเมริกา รวมทั้งมีการจัดการแข่งขันเวิร์ลซีรียส์ ออฟ โป๊กเกอร์ (WSOP – World Series of Poker) ซึ่งผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นสร้อยข้อมือเวิร์ลซีรียส์ และเงินรางวัลกลับบ้านอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ
โป๊กเกอร์ (Poker) เป็นเกมที่อาศัยทั้งโชค ความน่าจะเป็น จิตวิทยา และความเชี่ยวชาญในการเล่นเพื่อที่จะได้กำไรในการเล่น อันดับของไพ่ในโป๊กเกอร์จากมากไปหาน้อยจะเรียงได้จาก A K Q J T 9 8 7 6 5 4 3 2
ประวัติโป๊กเกอร์ (Poker)
ประวัติของโป๊กเกอร์นั้นมีหลายที่มา จึงยังไม่แน่ใจนักว่าเริ่มต้นที่ไหน แต่หลายๆคนคาดว่ามาจากประเทศฝรั่งเศส เพราะชื่อโป๊กเกอร์มาจากคำว่า poque ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส เดิมนั้นโป๊กเกอร์ใช้การ์ดเพียง 20 ใบ เริ่มโดย Joseph Crowell ซึ่งเป็นนักแสดงชาวอังกฤษที่ นิวออร์ลีนส์ โดยเล่นได้สูงสุดเพียงสี่คน และต่อมาก็ได้แพร่กระจายไปยังทั่วทวีปอเมริกา หลังจากที่ได้รับความนิยมทั่วโลก การ์ดครบชุดแบบอังกฤษ (52 ใบ) ก็ได้ถูกใช้ขึ้น และก็มีการจัดลำดับไพ่เพิ่มขึ้นมา
ในปัจจุบันโป๊กเกอร์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะเกมส์คอมพิวเตอร์ที่มีโป๊กเกอร์อยู่มากมายและมีคนเล่นหลายแสนคนทั่วโลกต่อวัน
กติกาการเล่นไพ่โป๊กเกอร์ (Poker)
การเล่นไพ่โป๊กเกอร์ (Poker) นั้น จะวัดความใหญ่ของไพ่ที่ได้โดยจะเรียงจากมากไปหาน้อยตามนี้ครับ
ตัวอย่างไพ่โป๊กเกอร์ (Poker) | คำอธิบาย |
รอยัลฟลัช (Royal Flush) ไพ่ที่ประกอบด้วย A , K , Q , J , 10 ที่มีดอกเดียวกัน ดอกได้ก็ได้ (ถ้าหากมีเหมือนกันให้ถือว่าโพดำใหญ่สุด) |
|
สเตรทฟลัช หรือเรียงสี (Straight Flush) คือไพ่ 5 ใบ ที่เรียงลำดับกัน และมีดอกเดียวกัน |
|
โฟร์การ์ด (Four of a kind) ไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 4 ใบ (ชื่อเล่น : Quad) |
|
ฟูลเฮ้าส์ (Full House) (ตองคู่) ประกอบด้วยตอง และคู่ หากได้ฟูลเฮ้าส์เหมือนกันให้นับตองก่อน ตามด้วยแต้มคู่ |
|
ฟลัช หรือสี (Flush) ไพ่ที่มีดอกเดียวกัน 5 ใบ ในกรณีที่มีฟลัชมากกว่า 1 คนให้นับไพ่ที่มีค่าสูงที่สุด (ถือว่าเป็นตัว Kicker) |
|
สเตรท หรือเรียง (Straight) ไพ่ดอกใดก็ได้ที่มีแต้มเรียงลำดับต่อกัน 5 ใบ (Note:เรียงต่ำที่สุดคือ 5 4 3 2 A และเรียงสูงที่สุดคือ A K Q J T) ในกรณีที่มีเรียงเหมือนกันมากกว่า 1 คน ให้นับไพ่จากใบที่มากที่สุด (ถือว่าเป็นตัว Kicker) หมายเหตุ : A (เอซ) เป็นได้ทั้งต่ำสุดและสูงสุด |
|
ตอง (Three of a kind) ไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 3 ใบ (ชื่อเล่น : Trips, Triple) |
|
2 คู่ (Two pair) มีคู่ 2 คู่ (Note:กรณีที่ 1 หากมีสองคู่เหมือนกัน ให้นับตัวที่มากที่สุดก่อน เช่น AAJJ5 ชนะ JJ553) (กรณีที่ 2: คู่ที่มากที่สุดเหมือนกันให้นับตัวถัดไป เช่น KK99J ชนะ KK22A) (กรณีที่ 3: มีคู่เหมือนกันทั้งสองคู่ นับตัว Kicker 1 ตัว เช่น AAKKQ ชนะ AAKKJ) |
|
1 คู่ (One pair) ไพ่ที่มี 1 คู่ (Note:หากมีไพ่คู่ตัวเดียวกัน ให้นับตัว Kicker เช่น AAK65 ย่อมชนะ AAQ65) |
|
ไพ่สูง (High card) หากไม่มีอะไรที่ว่ามา ให้นับไพ่ใบสูงที่สุด ใครมีไพ่สูงที่สุดชนะ (หากไพ่สูงที่สุดตัวแรกเท่ากันให้นับตัวที่สอง หากตัวที่สองเท่ากันอีก ให้แบ่งเงินกองกลาง) |
เท็กซัส โฮลด์เอ็ม โป๊กเกอร์ (Texas Hold’em Poker)
สำหรับการเล่นไพ่ เท็กซัส โฮลด์เอ็ม โป๊กเกอร์ (Texas Hold’em Poker) ที่เป็นที่นิยมที่สุดนั้น มีวิธีการเล่นดังนี้ครับ
1. ก่อนการเล่น ผู้เล่นสองคนที่อยู่ด้านซ้ายนับจากเจ้ามือ จะเรียกว่า Big Blind และ Small Blind ตามลำดับ ซึ่งจะถูกบังคับให้วางเงินเดิมพัน โดย Big Blind จะต้องจ่ายเป็นสองเท่าของ Small Blind เช่น ถ้า Small Blind วาง $20 Big Blind จะต้องวาง $40 และนำเงินเดิมพันวางไว้กลางโต๊ะ เรียกว่า Pot (Big Blind และ Small Blind จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกตา โดยวนตามเข็มนาฬิกา)
2. เมื่อเริ่มแจกไพ่ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับไพ่คนละ 2 ใบที่ห้ามให้ผู้เล่นคนอื่นดู (Hole Card) เมื่อแจกไพ่ครบแล้วจะเริ่มวางเงินเดิมพัน โดยจำนวนเงินเดิมพันที่วางได้ต่ำสุดจะขึ้นอยู่กับ Big Blind ผู้เล่นสามารถ เก หรือ เพิ่มเงินเดิมพัน ได้ (Raise) โดยผู้เล่นทุกคนต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนเท่ากัน
ถ้าผู้เล่นเห็นว่าไพ่ที่ตนเองได้มานั้นสู้ไม่ไหว ผู้เล่นสามารถหมอบได้ (Fold) ซึ่งผู้เล่นไม่ต้องวางเงินเดิมพัน แต่จะไม่มีสิทธิ์ในการได้รับเงินรางวัล
3. เมื่อการวางเงินเดิมพันสิ้นสุดลง เจ้ามือจะแจกไพ่อีก 3 ใบไว้กลางโต๊ะ (The Flop) ไพ่ที่อยู่กลางโต๊ะเรียกว่าการ์ดรวม (Community Cards) เพราะเป็นไพ่ที่ผู้เล่นทุกคนต้องใช้ หลังจากนั้นจะเริ่มเกไพ่ (Raise) กันอีกครั้ง ผู้เล่นสามารถผ่าน (Check) ได้ โดยไม่ต้องวางเงินได้ ถ้าไม่มีใครสู้วางเงินเดิมพัน (Call)
ถ้ามีผู้อื่นวางเงินเดิมพันสู้ แล้วผู้เล่นเห็นว่าไพ่ของตนเองนั้นสู้ไม่ไหว ผู้เล่นสามารถหมอบได้ (Fold) ซึ่งผู้เล่นไม่ต้องวางเงินเดิมพันเพิ่ม แต่จะไม่มีสิทธิ์ในการได้รับรางวัล
4. หลังจากนั้นไพ่อีกใบจะถูกวางกลางโต๊ะ (Turn) แล้วเริ่มเกกันอีกครั้งทีละใบ จนการ์ดรวม (Community Cards) เปิดครบทั้ง 5 ใบ
หลังจากที่ไพ่กองกลาง (Community Cards) เปิดครบ 5 ใบ + ไพ่ในมือ 2 ใบ
ผู้เล่นจะใช้เพียงไพ่ 5 ใบที่ดีที่สุด โดยวัดว่าใครที่ถือไพ่ใหญ่ที่สุดจะเป็นผู้ชนะไป (ดูตารางวัดความใหญ่ของไพ่ได้ที่ด้านบน) และผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลทั้งหมด (Winner-takes-all) แต่ถ้าได้ไพ่เหมือนกัน และตัว Kickers เหมือนกัน ก็จะเสมอ และได้รับเงินรางวัลคนละครึ่ง แต่กรณีนี้เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก